บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จํากัด(มหาชน) และบริษัทในเครือ ยืดมั่นในหลักปรัชญาขององค์กรที่ว่า “คนคือ หัวใจหลักของการขับเคลื่อนองค์กร” ดังนั้น พนักงานคือ ทรัพยากรที่มีคุณค่า และเป็นหัวใจสําคัญในการผลักดันองค์กรไปสู่ ความสําเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงให้ความสําคัญ ต่อการดูแลและปฏิบัติต่อ พนักงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่ คุณค่าของธุรกิจ อย่างเป็นธรรมและบนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชน โดยเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการให้ คุณค่าของความแตกต่าง เพื่อสร้างคุณค่าแก่ตัวพนักงานและสร้างแรงบันดาลใจต่อการทํางานได้อย่างเต็มศักยภาพ

               ทั้งนี้ นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ ได้กําหนดให้สอดคล้องกับแนวทางและมาตรฐานสิทธิมนุษยชน ระหว่างประเทศ 
อันประกอบด้วย ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (United Nations Universal Declaration of Human Rights: UNDHR)
และปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทํางานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ(The International Labor Organization
(ILO) Declaration on Fundamental Principles and Rights at Work) รวมทั้งกฎหมายแรงงานของประเทศที่บริษัทดําเนินธุรกิจ
หลักเกณฑ์ตามมาตรฐานสากลที่บริษัท ยึดถือ นโยบาย การบริหารของบริษัทฯ และข้อกําหนดของลูกค้า

     
     ขอบเขต
          นโยบายฉบับนี่ ใช้กับการดําเนินธุรกิจของบริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จํากัด (มหาชน) สํานักงานใหญ่ สํานักงานสาขาสุราษฎร์ธานี และบริษัทในเครือ เพื่อให้มั่นใจว่าการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ ปลอดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจและผู้ร่วมธุรกิจ ที่สอดคล้องตามหลักกฎหมายสากล

     นิยาม
บริษัท                 หมายถึง บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จํากัด(มหาชน)

บริษัทย่อย          หมายถึง บริษัทในเครือ ของบริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จํากัด(มหาชน)

พนักงาน             หมายถึง พนักงานและคนงานทุกระดับของบริษัท

คู่ค้าธุรกิจ            หมายถึง ผู้ส่งมอบสินค้าและบริการ รวมถึงผู้รับเหมาแรงงานและบริการ

แรงงานเด็ก         หมายถึง แรงงานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่มากกว่าอายุขั้นต่ำในการจ้างงาน

แรงงานบังคับ      หมายถึง งานที่บุคคลทํางานด้วยความไม่สมัครใจ โดยอาศัยวิธีการ หรือ อ้างเหตุบังคับ

การลงโทษ         หมายถึง การบีบบังคับ การข่มขู่ การข่มขืนใจให้ทํางาน หรือ ให้บริการ เป็นผลให้                                                                                 ทํางานอย่างไม่เต็มใจ หรือ โดยทําให้บุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

 

     แนวทางปฏิบัติ
     1. บริษัทฯ ตระหนักและเคารพในสิทธิมนุษยชนของพนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับการดําเนิน ธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งหมด โดยปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกันและปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม ทั้งใน ด้านแนวคิดและมุมมองในประเด็นต่างๆ อาทิ เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา เพศ สัญชาติ อายุ ความทุพพลภาพ หรือสถานภาพอื่น ใดโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
     2. บริษัทฯ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทําที่เป็นการละเมิดสิทธิ มนุษยชนอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้แรงงาน การใช้แรงงานข้ามชาติโดยผิดกฎหมาย การใช้แรงงานเด็ก การค้ามนุษย์ การจ่ายค่าตอบแทนอย่างไม่เป็นธรรม การเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล
     3. บริษัทฯ จะปฏิบัติต่อพนักงานอย่างมีมนุษยธรรมปราศจากการใช้ความรุนแรง การล่วงละเมิดทางเพศ การขู่เข็ญ ทางร่างกาย จิตใจ หรือการข่มเหงด้วยวาจา การรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและมีสภาพแวดล้อมในการทํางานของการปฏิบัติงานที่ดี
     4. บริษัทฯ มีการสื่อสาร เผยแพร่นโยบาย ให้ความรู้ ทําความเข้าใจ กําหนดแนวทาง และให้การสนับสนุนอื่นใดแก่ พนักงาน คู่ค้า คู่ธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่า ของธุรกิจ (Suppliers/Contractors in Business Value Chain) เพื่อให้มีส่วนร่วม ในการดําเนินธุรกิจ อย่างมีคุณธรรม เคารพต่อสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติต่อทุกคนตามหลักสิทธิมนุษยชนตามแนวนโยบายนี้ และทวนสอบความเข้าใจอย่าง สม่ำเสมอ และจัดให้มีการฝึกอบรมด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงการเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิดในสถานที่ทํางานแก่พนักงานทุกคนและ ผู้ที่เกี่ยวข้อง
     5. บริษัทฯ จัดให้มีกระบวนการตรวจสอบ มีช่องทางให้พนักงานสามารถร้องทุกข์ หรือเสนอแนะเรื่องต่างๆ เพื่อรับ เรื่องร้องเรียนหรือการรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ และ/ หรือห่วงโซ่อุปทาน ผ่านช่องทางรับข้อร้องเรียนบนเว็บไซต์บริษัทฯ www.asimar.com / E-mail / ไปรษณีย์ / ฝ่าย ทรัพยากรบุคคล เพื่อบรรเทาหรือแก้ไขผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเหมาะสม โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ ร้องเรียนแต่อย่างใด เว้นแต่กรณีที่จําเป็นต้องเปิดเผยตามกฎหมายกําหนด
     6. ผู้กระทําการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นการกระทําผิดจรรยาบรรณของบริษัทฯ และจะต้องได้รับการพิจารณา ทางวินัย                       7. บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างและรักษาวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นต่อการเคารพสิทธิมนุษยชนตามนโยบายด้านสิทธิ มนุษยชนนี้
     8. แรงงานเด็ก (Child Labor) บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยอายุขั้นต่ำในการจ้างงาน และจะไม่ให้แรงงาน ผู้เยาว์ทํางานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและพัฒนาการรวมถึงส่งผลกระทบต่อการศึกษาภาคบังคับ และไม่สนับสนุน หรือเข้าร่วมกับคู่ค้าที่มีการจ้างแรงงานที่อายุต่ำกว่าที่กฎหมายกําหนด
     9. แรงงานบังคับ (Forced Labor) บริษัทจะไม่กระทําหรือสนับสบุนให้มีการใช้แรงงานบังคับในทุกรูปแบบ และจะ ไม่เรียกเก็บเงิน หรือเก็บยืดเอกสารประจําตัวใดๆ ของพนักงาน เว้นแต่เป็นการดําเนินการที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย
     10. การไม่เลือกปฏิบัติ (Discrimination) บริษัทจะเคารพในความแตกต่างและปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เอื้อประโยชน์ หรือลิดรอนสิทธิของพนักงานอย่างไม่เป็นธรรมอันมีสาเหตุมาจากเรื่องเชื้อชาติ สัญชาติ เผ่าพันธุ์   สีผิว ต้นตระกูล ศาสนา สถานะทางสังคม เพศ อายุ ความพิการหรือทุพพลภาพ แนวคิดทางการเมือง ตลอดจนสถานภาพเกี่ยวกับการสมรส นอกจากนี้จะกําหนดมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ
     11.  บริษัทมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการจ้างงานท้องถิ่นและสร้างโอกาสให้สตรีในสถานประกอบการอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างสังคมแห่งความเสมอภาคในที่ทํางาน และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนของทุกคนใน ชุมชนที่บริษัทดําเนินธุรกิจ
     12. เสรีภาพในการสมาคม และการเจรจาต่อรอง (Freedom of Association and Collective Bargaining) บริษัทจะเคารพสิทธิพนักงานในการสมาคม หรือ รวมกลุ่มในรูปแบบใดๆ ที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย รวมถึงการเข้าร่วมใน กระบวนการเจรจาต่อรองตามขั้นตอนของกฎหมาย
     13. การคุ้มครองแรงงานหญิงมีครรภ์ (Labor Protection of Pregnant Employees) บริษัทจะจัดให้พนักงานที่ มีครรภ์ทํางานที่ปลอดภัย ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และไม่เป็นอันตรายต่อการมีครรภ์ ทั้งจะไม่เลิกจ้าง ลดตําแหน่งหรือ ลดสิทธิประโยชน์อันเนื่องมาจากการมีครรภ์วินัยและการลงโทษ (Discipline and Disciplinary Action) บริษัทจะไม่ใช้ วิธีการลงโทษทางวาจาที่ไม่เหมาะสมและไม่ลงโทษทางร่างกาย รวมทั้งไม่กระทํา การบังคับขู่เข็ญ และทําร้ายร่างกาย พนักงาน
             ในกรณีที่มาตรฐานสากลที่บริษัทยืดถือ หรือ ข้อกําหนดของลูกค้ามีมาตรฐานสูงกว่าแนวทางปฏิบัติข้างต้น ให้นํามาตรฐานสากล ที่บริษัทยึดถือ หรือ ข้อกําหนดของลูกค้า มาพิจารณากําหนดเป็นแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม

​

จึงประกาศมาให้พนักงานทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567

​

                                                                                                                                                            (นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์)

                                                                                                                                                            ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร